หนังออนไลน์เรื่องนี้นะครับเป็นเรื่องราวระหว่างคนแก่ผู้สิ้นหวังผู้เบื่อหน่ายกับการมีชีวิตกับชายหนุ่มที่ทำอะไรก็เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อไปหมดหรือเป็นผู้ล้มเหลวในชีวิตนั่นแหละเป็นการสื่อสารระหว่าง 2 ตัวละครนะครับโดยมีกล่องชาเนี่ยเป็นสื่อกลางชายชรานะครับมีอายุ 70 ขวบแล้วหลังจากที่ภรรยาของเขาเนี่ยได้จากไปทิ้งให้เขาอยู่อย่างโดดเดี่ยวและใช้ชีวิตอยู่คนเดียวเรื่อยๆไปวันๆแต่แล้วนะครับในวันหนึ่งเนี่ยเขาก็ได้พบกับเด็กหนุ่มข้างบ้านวัย 20 กว่าๆปลายๆมาแอบขโมยมะม่วงสุดหวงแหนของลุงเข้าโดยวัยรุ่นคนนี้นะครับชื่อว่า JJ JJ เนี่ยเป็นคนที่ทำอะไรก็ไม่สำเร็จนะครับชีวิตพังไปหมดไม่มีแฟน
เจเจ เนี่ยเป็นคนติดหนังออนไลน์ที่ทำอะไรก็ไม่สำเร็จนะครับชีวิตพังไปหมดไม่มีแฟนไม่ เนี่ยเป็นคนที่ทำอะไรก็ไม่สำเร็จนะครับชีวิตพังไปหมดไม่มีแฟนไม่มีงานไม่ เนี่ยเป็นคนที่ทำอะไรก็ไม่สำเร็จนะครับชีวิตพังไปหมดไม่มีแฟนไม่มีงานไม่มีเงินต่างต่างกับลุงวิชัยนะครับที่เป็นคนประสบความสำเร็จในชีวิตในทุกๆอย่างทุกๆครั้งทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นการงานชีวิตครอบครัวอบอุ่นมีภรรยาที่น่ารักคอยเคียงข้างให้กำลังใจเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบแต่พอลุงวิชัยได้ไปเจอกับเจเจที่กำลังแอบสอยมะม่วงของลุงอยู่นั้นทำให้รู้วิชัยโกรธมากเลยนะจนถึงขั้นไปขึ้นพักขึ้นลงขึ้นศาล
แต่ก็นั่นแหละหนังออนไลน์เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่เนี่ยได้มารู้จักกันมากขึ้นส่วนบทของตำรวจไทยนะครับก็เหมือนหนังปกติทั้งๆที่ในเรื่องจริงเนี่ยก็ไม่ได้ใจดีเท่าไหร่นักแถมขี้ขโมยอีกยิ่งกว่าเจเจอีกนะด้วยตำรวจไงจะให้เจเจยอมรับความผิดโดยการไปรดน้ำต้นไม้ไถ่โทษลุงวิชัยซึ่งเจเจก็มาครับแต่ต้องจ่ายค่าจ้างนะครับ ซึ่งลุงแกก็ต้องจ่ายนะครับแต่ก็ไม่เต็มใจหรอกแต่ที่จ่ายเนี่ยก็เพราะว่าลุงแกลุงวิชัยนะไม่มีใครแล้วจริงๆโดยทั้งคู่นะครับสื่อสารกันผ่านการเขียนโน๊ตใส่กล่องชากันโต้ตอบกันไปมาเรื่อยๆจนเป็นเพื่อนกันในที่สุดหรือก็คือกล่าวง่ายๆก็จะเป็นมิตรภาพระหว่างวัย
หากจะพูดถึงเรื่องที่สอดแทรกภายในหนังออนไลน์นะครับเรื่องนี้เนี่ยได้ซึมสอดแทรกโรคซึมเศร้าวัยเกษียณนะครับเป็นสิ่งแรกเลยที่เห็นได้ชัดๆว่าลุงวิชัยแกเนี่ยไม่ร่าเริงเลยตั้งแต่ภรรยาเขาจากไปแล้วก็ลูกเขาก็ไม่ได้อยู่ด้วย เพราะว่าลุงวิชัยแกไม่ได้มีลูกนะครับคนที่เคยแข็งแกร่งเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีที่องอาจเนี่ยอาจจะไม่รู้ว่าจะองอาจเพื่อใครอีกต่อไปแล้วไม่รู้จะสู้ไปเพื่อใครอีกแล้วลุงวิชัยแกก็เลยเศร้าหนักเมื่อต้องสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รักไป
เรื่องต่อมาที่เขาสอดแทรกนะครับก็จะเป็นโรคต่างๆที่รุมเร้าจนทำให้ลุงวิชัยเนี่ยมีความคิดเกี่ยวกับความสิ้นหวังในชีวิตขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวกลายเป็นความซึมเศร้าอย่างข้อแรกที่เคยว่าไปมันเป็นภัยเงียบนะเป็นภัยเงียบที่คนแก่ทุกคนต้องพบเจอแหละแต่อาจแต่คนวัยรุ่นอย่างเราๆอาจจะยังไม่รู้ว่ามันสำคัญมันหนักหน่วงขนาดไหนการสื่อสารในหนังเรื่องนี้นะครับก็อาจจะเหมือนเป็นการสะท้อนว่าคนแก่ในบ้านเราเนี่ยเป็นอย่างนี้กันเยอะและมีแนวโน้มจับจะมีมากขึ้นในอนาคตเพราะว่าประเทศไทยเราก็จะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอีกไม่กี่ปีนะครับแล้วก็จะอ่าอัตราการเกิดที่ลดน้อยลงอย่างกระทั่งอย่างมากมายแต่จะว่าไปก็มันก็เป็นปกตินิสัยของผู้สูงอายุที่มักจะหงุดหงิดขี้หงุดหงิดนะแล้วก็อาจจะไม่ได้เปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆแต่เขาก็ไม่ได้โกรธคนอื่นนะแต่เขาแค่กดตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจเหมือนเมื่อก่อนสมัยหนุ่มๆต่างหาก
Leave a Reply